ความสัมพันธ์ระหว่างการแสดงอัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ต่อความมุ่งมั่นทุ่มเทในงาน และบรรยากาศองค์การ

ผู้แต่ง

  • สุภัทรา​ เพียรดี คณะพัฒนา​ทรัพยากร​มนุษย์​และ​องค์การ​ สถาบัน​บัณฑิตพัฒ​น​บริหาร​ศาสตร์​
  • บุษกร วัชรศรีโรจน์ คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

คำสำคัญ:

การแสดงอัตลักษณ์ทางเพศ, ผู้มีความหลากหลายทางเพศ, ความมุ่งมั่นทุ่มเทในงาน, บรรยากาศองค์การ

บทคัดย่อ

     การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการแสดงอัตลักษณ์ ทางเพศของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศต่อความมุ่งมั่นทุ่มเทในงาน 2) ศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างการแสดงอัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศต่อบรรยากาศองค์การ และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความมุ่งมั่นทุ่มเทในงานและบรรยากาศองค์การ การวิจัยนี้ ศึกษากลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (เลสเบี้ยน, เกย์, คนที่รักได้ทั้งสองเพศ และคนข้ามเพศ) จำนวน 300 คน จากหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน แบบผสานวิธีด้วยแบบสอบถาม โดยการสุ่มตัวอย่างแบบก้อนหิมะและการสัมภาษณ์เชิงลึกเพื่อทวนค่าสถิติ

     ผลการวิจัยพบว่า 1) เกย์มีความมุ่งมั่นทุ่มเทในงานสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ หากผู้มีความหลากหลาย ทางเพศทำงานในองค์กรที่เปิดกว้างในการแสดงอัตลักษณ์ทางเพศ และสนับสนุนให้พัฒนาตนเอง อยู่เสมอ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความมุ่งมั่นทุ่มเทในงาน 2) คนที่รักได้สองเพศมีความสัมพันธ์กับ บรรยากาศองค์การด้านการมีส่วนร่วม และการให้รางวัลสูงที่สุด ทั้งนี้ผู้มีความหลากหลาย ทางเพศต่างเห็นพ้องกันว่า การได้รับมีค่าตอบแทนที่เหมาะสมตามผลการปฏิบัติงาน และได้รับ ยอมรับจากเพื่อนร่วม คือ บรรยากาศองค์กรที่ดีต่อการทำงาน และ 3) ความมุ่งมั่นทุ่มเทในงาน มีผลต่อบรรยากาศองค์การอยู่ในระดับสูง

Downloads

Download data is not yet available.

References

ทวินันท์ คงคราญ (2534). บทบาทของสื่อมวลชนในการสร้างภาพนางสาวไทย พ.ศ. 2507-2531 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการสื่อสารมวลชนคณะนิเทศศาสตร์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ.

ชลธิชา พันธุ์พานิช. (2537). สิทธิคุณค่าของความเป็นมนุษย์กับการประกวดนางงาม: ทัศนะของผู้บริหารมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์, กรุงเทพฯ.

นิธิ เอียวศรีวงศ์ (2545). ว่าด้วยเพศ ความคิด ตัวตน และอคติทางเพศ ผู้หญิง เกย์ เพศศึกษา และกามารมณ์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน

สุจิรา อรุณพิพัฒน์ (2550). เศรษฐศาสตร์การเมืองว่าด้วยการผลิตนางงาม: กรณีศึกษาการประกวดนางสาวไทย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การเมืองคณะเศรษฐศาสตร์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

Banet-Weiser, S. (1999). The most beautiful girls in the world: beauty pageants and national identity. Berkeley, Calif: University of California Press.

Bloul, R. A. D. (2012). Ain't I a woman? Female landmine survivors' beauty pageants and the ethics of staring. Social Identities Journal for the Study of Race, Nation and Culture, 18(1), 3-18.

Cohen, C. B., Richard, W. & Beverly S. (eds) (1996). Beauty queens on the. Global Stage–Gender, Contests, and Power. London: Routledge. 1996.

Erving G. (1959).The Presentation of Self in Everyday Life,New York: Doubleday Dell Publishing Group,Inc,.

Özdemir, B. P. (2016). Building a “Modern” and “Western” image: Miss Turkey beauty contests from 1929 to 1933. Public Relations Review, 42(5), 7-14.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

25-12-2020

How to Cite

เพียรดี ส., & วัชรศรีโรจน์ บ. (2020). ความสัมพันธ์ระหว่างการแสดงอัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ต่อความมุ่งมั่นทุ่มเทในงาน และบรรยากาศองค์การ. วารสารจันทรเกษมสาร, 26(2), 247–263. สืบค้น จาก https://li01.tci-thaijo.org/index.php/crujournal/article/view/238533