ความต้องการศึกษาต่อและปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อ ระดับปริญญาเอก หลักสูตรนาฏศิลป์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

ผู้แต่ง

  • ชมนาด กิจขันธ์ สาขานาฏศิลป์ศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
  • จิระเดช นุกูลโรจน์ นักวิชาการอิสระ
  • กุลนาถ พุ่มอำภา สาขานาฏศิลป์ศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

คำสำคัญ:

ความต้องการศึกษาต่อ, ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ, หลักสูตรนาฏศิลป์ศึกษา

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาความต้องการและปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อ และแนวทางการพัฒนาหลักสูตรนาฏศิลป์ศึกษา ระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิต นักศึกษา ระดับปริญญาโทและอาจารย์ประจำหลักสูตรทางด้านนาฏศิลป์ศึกษาหรือศิลปะการแสดง จำนวนทั้งสิ้น 152 คน ใช้วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบโควตาและการจับฉลาก เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย การแจกแจงความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการวิเคราะห์ความถดถอยแบบพหุคูณ (Multiple Regression Analysis)

ผลการศึกษา จากวัตถุประสงค์ข้อ 1 พบว่า ร้อยละ 73.03 ของกลุ่มตัวอย่างมีความต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก และร้อยละ 85.12 มีความสนใจศึกษาต่อในหลักสูตรนาฏศิลป์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในขณะปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อมีทั้งสิ้น 8 ปัจจัย ประกอบด้วย 1) ปัจจัยด้านงบประมาณการศึกษา มีค่าเฉลี่ย 4.74 2) ปัจจัยด้านหลักสูตร มีค่าเฉลี่ย 4.59 3) ปัจจัยด้านรูปแบบการเรียนการสอน มีค่าเฉลี่ย 4.46 4) ปัจจัยด้านอาจารย์ผู้สอน มีค่าเฉลี่ย 4.32 5)ปัจจัยด้านการรับเข้าและจบการศึกษา มีค่าเฉลี่ย 3.41 6) ปัจจัยด้านภาพลักษณ์และค่านิยม มีค่าเฉลี่ย 3.37 7)ปัจจัยด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ย 3.22 และ 8) ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ มีค่าเฉลี่ย 3.05 ส่วนผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ข้อ 2 คือ แนวทางการพัฒนาหลักสูตรนาฏศิลป์ศึกษา ระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ข้อควรคำนึงที่เป็นสาระสำคัญ พบว่า ควรศึกษาความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมายทั้งที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน จะต้องกำหนดจุดแข็งของหลักสูตรให้ชัดเจนว่าจะผลิตบัณฑิตให้มีคุณลักษณะแบบใด มีความเชี่ยวชาญในด้านใด และที่สำคัญหลักสูตรจะต้อง
มีความเป็นสากลนิยม รายวิชาที่เปิดสอนจะต้องมีความทันสมัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

ฉัตรชัย อินทสังข์, ณพรรณ สินธุศิริ, ดุษฎี เทียมเทศ บุญมาสูงสง และปุริม หนุนนัด. (2552). ความต้องการศึกษาต่อและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ของนักศึกษาจังหวัดนครราชสีมา (รายงานการวิจัย). นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน.

ชยากานต์ เรืองสุวรรณ, วัลลภา อารีรัตน์ และเสาวนี สิริสุขศิลป์. (2564). ความต้องการจำเป็นในการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยราชภัฏ. วารสารการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 9(36), 29-38.

ธานินทร์ เงินถาวร, อทิตา มู่สา, พิธาน ดลหมาน และยุทธชัย ด้วงสวัสดิ์. (2566). ความต้องการศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ. วารสารวิชาการ ปขมท, 12(2), 144-151.

บุญชม ศรีสะอาด. (2553). หลักการวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 8). สุวีริยาสาสน์การพิมพ์.

เพียงแพน สรรพศรี. (2566). อนาคตภาพหลักสูตรนาฏศิลป์ไทยศึกษาในประเทศไทย [วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ภราดร สุขพันธ์. (2561). การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษกับความเป็นบัณฑิตในยุคปัจจุบัน. วารสาร มจร. หริภุญชัยปริทรรศน์, 2(2), 89-100.

มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย. (2564). ประเทศไทยในอนาคต Future Thailand มิติที่ 3 การศึกษาไทย. https://tdri.or.th/2021/08/future-thailand-education

วรรณี ชลนภาสถิตย์, อรุณี นรินทรกุล ณ อยุธยา และพรรณพิมล ก้านกนก. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการศึกษาระดับปริญญาเอกในประเทศไทย, วารสารสุโขทัยธรรมาธิราช, 33(2), 93-114.

ศรุดา ชัยสุวรรณ, กฤษฎา วัฒนศักดิ์, ทินกฤต ชัยสุวรรณ, นัยนา ช่ำชอง และนิพนธ์ แสงเนตร. (2565). ความต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา วิทยาลัยนครราชสีมา, วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา,12(2), 12-25.

สุภาพร คชารัตน์. (2565). การศึกษาความต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ในสาขาวิชาภาษาและการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 16(1), 209-225.

สุวดี อุปปินใจ และพูนชัย ยาวิราช. (2562). การจัดการชั้นเรียนยุคดิจิทัล. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย, 1(4), 51-65.

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2568). รายงานภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ปี 2567. https://www.nesdc.go.th/ewt_news.php?nid=12567

Cronbach. (1970). The evolution of research. Harper Collins.

Education First. (2018). EF English Proficiency Index (8th ed.). https://www.ef.co.th/epi

Hair, J. F., Black, W. C., & Anderson, R. E. (2010). Multivariate data Analysis (6th ed). Pearson Education International.

Krejcie, R. V., & Morgan. D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.

Shoukat, S. (2018). Dynamic model and Skilbeck Model of Curriculum. https://www.slideshare.net/ShaharyarShoukatShou

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

11-06-2025

รูปแบบการอ้างอิง

กิจขันธ์ ช. ., นุกูลโรจน์ จ. ., & พุ่มอำภา ก. . (2025). ความต้องการศึกษาต่อและปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อ ระดับปริญญาเอก หลักสูตรนาฏศิลป์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม. วารสารจันทรเกษมสาร, 31(1), R64-R79. สืบค้น จาก https://li01.tci-thaijo.org/index.php/crujournal/article/view/266373

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย