การใช้หลักธรรมาภิบาลและภาวะผู้นำของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย
คำสำคัญ:
หลักธรรมาภิบาล, ภาวะผู้นำ, มหาวิทยาลัยราชภัฏ,บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับพฤติกรรมภาวะผู้นำและระดับการใช้หลัก ธรรมาภิบาลของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมภาวะผู้นำและการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย 3) ศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะการใช้ภาวะผู้นำและการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏใน ประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือบุคลากรจำนวน 366 คนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ 40 มหาวิทยาลัย โดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ มีความเชื่อมั่น 0.72 สถิติที่ใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน การวิเคราะห์ การถดถอย พหุคูณและการวิเคราะห์ความสัมพันธ์
ผลการศึกษาพบว่า 1) ระดับพฤติกรรมภาวะผู้นำแปรสภาพ มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าภาวะผู้นำการแลกเปลี่ยนการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารฯ พบว่าโดยรวมอยู่ในระดับบ่อยครั้ง 2) ความสัมพันธ์ระหว่างระดับพฤติกรรมภาวะผู้นำและระดับการใช้หลักธรรมาภิบาลของ ผู้บริหารฯ มีความสัมพันธ์เป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ภาวะผู้นำแปรสภาพมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับหลักธรรมาภิบาลทุกหลักอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สำหรับภาวะผู้นำการแลกเปลี่ยนพบว่าองค์ประกอบด้านการให้รางวัลอย่างต่อเนื่องและการบริหารโดยการยอมรับ (เชิงรุก) มีความสัมพันธ์กับการใช้หลักธรรมาภิบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ส่วนการบริหารโดยการยอมรับ (เชิงรับ) มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับการใช้หลัธรรมาภิบาล หลักประสิทธิผล หลักการตอบสนอง หลักความโปร่งใส หลักการกระจายอำนาจ และหลักความเสมอภาค อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และภาวะผู้นำแบบตามสบาย มีความสัมพันธ์กับการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารฯอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ 3) ปัญหาและข้อเสนอแนะจากการศึกษา ผู้บริหารควรมีความชัดเจนในการทำงาน มีหลักในการเป็นผู้นำที่ดีมีภาวะทางอารมณ์สูง สามารถบริหารจัดการความขัดแย้งภายในองค์กรได้ เน้นด้านความยุติธรรมคุณธรรม การตรวจสอบและการพัฒนาองค์กรหรือบุคลากรให้มากขึ้น
Downloads
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว