ผลของระดับแคลเซียมและแมกนีเซียมต่อ การเจริญเติบโตของแวนดาสันทรายบลู
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาผลของความเข้มข้นของแคลเซียมและแมกนีเซียมต่อการเจริญเติบโตของแวนดาสันทรายบลู ใช้ต้นอายุ 1 ปี เป็นพืชทดลอง แบ่งเป็น 2 การทดลอง การทดลองที่ 1 ให้สารละลายธาตุอาหารที่มีความเข้มข้นของแคลเซียมต่างกัน 6 ระดับ (0, 100, 200, 300, 400 และ 500 มิลลิกรัมต่อลิตร) พบว่าสารละลายธาตุอาหารที่มีความเข้มข้นของแคลเซียม 200 มิลลิกรัมต่อลิตร ทำให้ความสูงของต้นมากที่สุด การทดลองที่ 2 ให้สารละลายธาตุอาหารที่มีความเข้มข้นของแมกนีเซียมต่างกัน 6 ระดับ (0, 100, 200, 300, 400 และ 500 มิลลิกรัมต่อลิตร) พบว่า สารละลายธาตุอาหารที่มีความเข้มข้นของแมกนีเซียม 100 มิลลิกรัมต่อลิตร มีผลต่อการเจริญเติบโตด้านความสูงต้น จำนวนใบต่อต้น ความกว้างใบ ความยาวใบ และความหนาใบของแวนดาสันทรายบลูมากที่สุด
Article Details
References
ไชยา ลาวัลย์. 2534. แวนดา. ฐานเกษตรกรรม, กรุงเทพฯ. 95 หน้า.
ผ่องพรรณ สร้อยอุบล. 2549. กล้วยไม้. เกษตรสยามบุ๊คส์, กรุงเทพฯ. 96 หน้า.
พูนพิภพ เกษมทรัพย์. 2549. ชีววิทยา 2. โครงการตำราวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ มูลนิธิ สอวน. ด่านสุทธาการพิมพ์, กรุงเทพฯ. 440 หน้า.
มุกดา สุขสวัสดิ์. 2544. ความอุดมสมบูรณ์ของดิน. โอเดียนสโตร์, กรุงเทพฯ. 368 หน้า.
ยงยุทธ โอสภสภา. 2543. ธาตุอาหารพืช. ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ. 424 หน้า.
สมบุญ เตชะภิญญาวัฒน์. 2538. สรีรวิทยาของพืช. ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ. 213 หน้า.
โสระยา ร่วมรังษี. 2544. การผลิตพืชสวนแบบไม่ใช้ดิน. โอเดียนสโตร์, กรุงเทพฯ. 88 หน้า.
อภิรยา เทพสุคนธ์. 2549. ผลของแคลเซียมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้สกุลหวาย. ปัญหาพิเศษ ปริญญาตรี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เชียงใหม่. 30 หน้า.
Dematte, M. E. S. P. 2000. Growth of Dendrobium nobile Lindl. as related with nutrient concentration in the growing media. Acta Hort. 511: 265-270.
Hew, C. S. and J. W. H. Yong. 2004. The Physiology of Tropical Orchids in Relation to the Industry. World Scientific Publishing, New Jersey. 370 p.
Poole, H. A. and J. G. Seeley. 1978. Nitrogen, potassium and magnesium nutrition of three
orchid genera. J. Amer. Soc. Hort. Sci. 103(4): 485-488.