นวัตกรรมการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านสำนักใหม่ ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
Main Article Content
Abstract
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 63.6 มีตำแหน่งเป็นครูคิดเป็นร้อยละ 68.2 มีระยะเวลาและประสบการณ์ที่ดำรงตำแหน่งเป็นระยะเวลา 20 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 59.1 มีวุฒิทางการศึกษาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 81.3 มีอายุระหว่าง 50 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 45.5 สภาพการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน การวิเคราะห์สภาพการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง 5 ด้าน 1) ด้านการกระจายอำนาจ 2) ด้านการมีส่วนร่วม 3) ด้านการบริหารตนเอง 4) ด้านการคืนอำนาจการจัดการศึกษาให้แก่ประชาชน 5) ด้านการตรวจสอบและถ่วงดุล โดยรวมมีสภาพการบริหารสถานศึกษาอยู่ในระดับมาก
แนวทางการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน การวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีอยู่ด้วยกัน 5 ด้าน คือ 1) ด้านการกระจายอำนาจ แนวทางในการพัฒนา สร้างความรู้ความเข้าใจในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้ทุกโรงเรียนเข้าใจ และควรมีโรงเรียนต้นแบบที่จัดการศึกษาทั้ง 3 ระบบให้โรงเรียนที่สนใจได้ศึกษาเรียนรู้ 2) ด้านการมีส่วนร่วม แนวทางในการพัฒนา รัฐควรใช้สื่อประชาสัมพันธ์จูงใจให้ผู้ปกครองเข้าใจการพัฒนาการศึกษาแบบชุมชนมีส่วนร่วมให้มากขึ้น 3) ด้านการบริหารตนเอง แนวทางในการพัฒนา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐานควรเร่งฝึกอบรมหลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงให้ครอบคลุมครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน 4) ด้านการคืนอำนาจการจัดการศึกษาให้แก่ประชาชน แนวทางในการพัฒนา รัฐโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในการคืนอำนาจการจัดการศึกษาให้แก่ประชาชน ชุมชน และท้องถิ่น ที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากกว่าที่ผ่านมา 5) ด้านการตรวจสอบและถ่วงดุล แนวทางในการพัฒนา ควรเร่งพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีเจตคติที่ดี และมีความรู้ความสามารถในการตรวจสอบและถ่วงดุล
Innovative Management of Basic Education in Bansamnakmai School, Tambon khunthale, Amphoe lansaka, Nakhon Si Thammarat
The purpose of this study was to 1) study the management of basic education in Bansamnakmai School, Tambon Khunthale, Amphoe Lansaka, Nakhon Si Thammarat; 2) study the problems of the management of basic education in Bansamnakmai School, Tambon Khunthale, Amphoe Lansaka, Nakhon Si Thammarat; 3) study the development guidelines of basic education in Bansamnakmai School, Tambon Khunthale, Amphoe Lansaka, Nakhon Si Thammarat. The data were collected by using questionnaires as a tool to study problems and develop management guidelines for basic education of Bansamnakmai School, Tambon Khunthale, Amphoe Lansaka, Nakhon Si Thammarat. The statistical analysis of data were percentage, mean, standard deviation.
The results showed that most respondents were female. (63.6 percent), they were teachers (68.2 percent), with teaching experience of 20 years and over (59.1 percent), there are bachelor’s degrees (81.3 percent), aged between 50 years and over (45.5 percent), the analysis of the state of administration of basic education included 5 aspects: 1) the decentralization; 2) the participation; 3) self management; 4) giving the power of education management to the public; 5) monitoring and balancing overall, the condition of school administration was at a high level.
The guidelines for management development of basic education included 5 areas: 1) For the decentralization: an understanding of non-formal education should be created in all school. There should be a model school which manage the three understand systems for school interested in learning to study. 2) For the participation: the government should use communication media to encourage the parents to understand more the educational development by community-involvement. 3) For the self-management the office Basic Education should accelerate transformational leadership training courses to cover all teachers and educational personnel. 4) For giving the power of education management to the public: The Basic Education Committee should accelerate a clear and concrete understanding of the power of education management back to the community and local people. 5) For the check and balance: the Basic Education Committee should accelerate the development of government personnel to have positive attitudes and being able to check and balance the power system.
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ถือเป็นลิขสิทธ์ของวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำข้อมูลทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชก่อนเท่านั้น
The content and information in the article published in Wichcha journal Nakhon Si Thammarat Rajabhat University, It is the opinion and responsibility of the author of the article. The editorial journals do not need to agree. Or share any responsibility.