การเปรียบเทียบลักษณะการทำลายและพัฒนาการของระดับอาการใบด่าง ในมันสำปะหลังสามพันธุ์ จากไรแดงหม่อน Tetranycus truncatus Ehara.

Main Article Content

เบญจพร ชำนาญ
นุชรีย์ ศิริ

บทคัดย่อ

ไรแดงหม่อน Tetranychus truncatus Ehara เป็นปัญหาสำคัญของมันสำปะหลังในประเทศไทย ความรุนแรงของการทำลายขึ ้นกับพันธุ์ของมันสำปะหลัง การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบลักษณะการทำลาย และพัฒนาการของระดับอาการใบด่างจากการทำลายของไรแดงหม่อนบนมันสำปะหลัง 3 พันธุ์ คือ ห้วยบง60เกษตรศาสตร์50 และ ระยอง72 ปล่อยไรแดงหม่อนเพศเมีย 40 ตัวต่อต้น พันธุ์ละ 10 ซ้ำ ในโรงเรือนทดลองช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2560 บันทึกปริมาณไรทุกวัย ตำแหน่งการดูดกิน และระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นทุก 3 วัน โดยแบ่งความเสียหายเป็น 5 ระดับ คือ L1 = ไม่มีการทำลาย, L2 = ใบด่าง ≤25%, L3 = ใบด่าง 50%, L4 = ใบด่าง 75% และ L5 = ใบด่าง 100% ผลการทดลองพบว่าไรแดงหม่อนดูดกินใต้ใบบริเวณเส้นใบก่อน และกระจายไปตามเนื้อใบ ไรวางไข่บริเวณโคนใบใกล้กับเส้นกลางใบมากที่สุด พฤติกรรมการกินและการวางไข่ไม่มีความแตกต่างกันในทุกพันธุ์ ระยอง 72 มีการเพิ่มปริมาณไรทุกระยะมากกว่าพันธุ์อื่นอย่างมีความแตกต่างกันทางสถิติ พบประชากรไรแดงหม่อนมากที่สุดในวันที่ 9 ของการทดลอง ในพันธุ์ระยอง 72, ห้วยบง 60 และ เกษตรศาสตร์ 50 คือ 124.63, 98.20 และ 57.25 ตัว ตามลำดับ พัฒนาการอาการใบด่างจาก L1-L3 ของ ห้วยบง60 มีระยะเวลาสั้นที่สุด คือ 4 วัน ส่วน เกษตรศาสตร์50 และ ระยอง72 ใช้เวลา 8 และ 5 วัน ทุกพันธุ์ใช้เวลาพัฒนาการอาการใบด่างจาก L3 เข้าสู่ L4 คือ 9 วัน พัฒนาการอาการใบด่างจาก L4 เข้าสู่ L5 ระยอง72 ใช้เวลาน้อยที่สุด คือ 22 วัน รองลงมาคือ ห้วยบง60 และ เกษรศาสตร์50 คือ 26 และ 34 วัน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ชำนาญ เ. ., & ศิริ น. (2018). การเปรียบเทียบลักษณะการทำลายและพัฒนาการของระดับอาการใบด่าง ในมันสำปะหลังสามพันธุ์ จากไรแดงหม่อน Tetranycus truncatus Ehara. วารสารแก่นเกษตร, 46(6), 1107–1114. สืบค้น จาก https://li01.tci-thaijo.org/index.php/agkasetkaj/article/view/250211
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (research article)

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการเกษตร. มปป. พันธุ์มันสำปะหลังที่เหมาะสมเฉพาะพื้นที่. แหล่งที่มา URL http://at.doa.go.th/mealybug/varsite.htm สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2560.
ทัศนีย์ แจ่มจรรยา, นุชรีย์ ศิริ และวัชลาวลี บุญมี. 2558. รูปแบบการแพร่กระจายของไรแมงมุมหม่อนในมันสำปะหลัง. โครงการวิจัยเรื่อง การประยุกต์ใช้ศัตรูธรรมชาติ ในการควบคุมศัตรูพืชและศัตรูสัตว์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน. ศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
มานิตา คงชื่นสิน, พิเชฐ เชาว์วัฒนวงศ์, พลอยชมพู กรวิภาสเรือง และ อัจฉราภรณ์ ประเสริฐผล. 2555. การควบคุมไรศัตรูมันสำปะหลังโดยชีววิธี. รายงานผลงานวิจัยประจำปี 2555 สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช.
สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2015. มันสำปะหลัง: แหล่งปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทย. แหล่งที่มา URL http://www3.rdi.ku.ac.th/?p=18045 สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2560.
สุรวุฒิ สามหาดไทย. 2557. ผลของไซยาไนด์ต่อการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากีฏวิทยา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
Bellotti, A. C. 2002. Arthropod pests. Cassava: Biology, production and utilization. In: R.J. Hillocks, J.M. Thresh and A.C. Bellotti (eds.). CABI-PublishingMutisya, D.L., C.P.M. Khamala, E.M. El Banhawy, C.W. Kariuki, and D.W. Miano. 2014. Determination of damage threshold of cassava green mite (Acari : Tetranychidae ) on different cassava varieties. JPPS. 1: 79-86.
Mutisya, D.L., C.P.M. Khamala, E.M. El Banhawy and C.W. Kariuki. 2013. Cassava variety tolerance to spider mite attack in relation to leaf cyanide level. Journal of biology, agriculture and healthcare. 3: 24-31.
Nukenine, E.N., A.T. Hassan, and A.G.O. Dixon. 2000. Influence of variety on the within-plant distribution of cassava green spider mite (Acari: Tetranychidae), and leaf anatomical characteristics and chemical components in relation to varietal resistance. INT J PEST MANAGE. 46: 177-186.
Yaninek J.S., G.J. de Moraes., and R.H. Markham. 1989. In: Handbook on the cassava green mite, Monony chellus tanajoa in Africa: a guide to its biology and procedures for biological control. International Institute of Tropical Agriculture. Cotonou, Benin.