The Effects of Using Bio-extracts from Local Fruits and its Byproducts on the Coagulation Efficiency of Rubber Cup Lump ผลของการใช้น้ำหมักชีวภาพจากผลไม้และวัสดุเศษเหลือผลไม้ในท้องถิ่น ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการจับตัวของยางก้อนถ้วย
Main Article Content
บทคัดย่อ
ปัจจุบันเกษตรกรไทยนิยมใช้สารเคมีสำหรับการจับตัวของน้ำยางพาราสดเพื่อผลิตยางก้อนถ้วยในแปลงปลูก สภาพความเป็นกรดของน้ำทิ้งทำให้ต้นยางเสื่อมโทรมและอาจทำให้หน้ายางเกิดอาการตายนึ่งได้ นอกจากนี้กรดที่ใช้อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่มือหรือบริเวณสัมผัสและยังเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม จากปัญหาดังกล่าวงานวิจัยนี้จึงสนใจพัฒนาสารจับตัวยางแบบชีวภาพสำหรับผลิตยางก้อนถ้วยโดยใช้กรดจากน้ำหมักชีวภาพผักผลไม้ในท้องถิ่น วางแผนทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ ศึกษาผลของการเติมสารจับตัว 6 ชนิด คือ กรดฟอร์มิก 3 เปอร์เซ็นต์ กรดซัลฟิวริก 3 เปอร์เซ็นต์ กรดอะซิติก 3 เปอร์เซ็นต์ น้ำหมักชีวภาพจากเปลือกมะนาว น้ำหมักชีวภาพจากกล้วยน้ำว้าสุก และน้ำหมักชีวภาพจากสับปะรด เพื่อตกตะกอนยางเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง ผลการทดลอง พบว่ายางก้อนถ้วยมีค่าเฉลี่ยระยะในการจับตัวของน้ำยางมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) โดยพบว่าชุดการทดลองที่ใช้กรดซัลฟิวริกมีค่าระยะเวลาในการจับตัวของน้ำยางเร็วสุด 33 นาที แต่มีน้ำหนักแห้งและประสิทธิภาพการจับตัวของยางต่ำเพียง 87.64 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างผลการใช้น้ำหมักชีวภาพทั้ง 3 ชนิด พบว่าเปลือกมะนาวมีระยะเวลาในการจับตัวของน้ำยางเร็วสุด 235 นาที รองลงมาคือกล้วยน้ำว้าสุก และสับปะรด 466 และ 467 นาที ตามลำดับ โดยมีน้ำหนักสดและน้ำหนักแห้งไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p > 0.05) แต่น้ำหมักชีวภาพกล้วยน้ำว้าสุกมีประสิทธิภาพการจับของยางสูงสุด 99.61 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นน้ำหมักชีวภาพสับปะรด และน้ำหมักชีวภาพเปลือกมะนาว คือ 95.56 และ 95.56 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ผลการทดสอบค่าความเป็นกรด พบว่ากรดซัลฟิวริก 3 เปอร์เซ็นต์ มีค่าความเป็นกรดสูงสุด มีค่าความเป็นกรด-ด่างเริ่มต้นเท่ากับ 0.71 และเชรั่มเท่ากับ 0.97 ส่วนผลการใช้น้ำหมักชีวภาพทั้ง 3 ชนิด มีค่าความเป็นกรด-ด่างต่ำลง โดยมีค่าความเป็นกรด-ด่างของเชรั่ม เท่ากับ 4.11-4.97 เมื่อนำน้ำหมักชีวภาพเปลือกมะนาวซึ่งใช้ระยะเวลาการจับตัวยางที่เร็วกว่ามาแช่กับเปลือกเงาะเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนนำไปใช้งาน พบว่ายางก้อนถ้วยมีค่าเฉลี่ยระยะในการจับตัวของยางก้อนถ้วยเร็วขึ้นจาก 235 นาที เป็น 35 นาที และเพิ่มประสิทธิภาพการจับตัวของยางจาก 95.56 เป็น 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ค่าความเป็นกรด-ด่างของเชรั่มหรือน้ำทิ้งหลังจากการตกตะกอนมีค่าต่ำ (ค่าความเป็นกรด-ด่าง เท่ากับ 5.15) เมื่อเทียบกับผลการใช้กรดซัลฟิวริก (ค่าความเป็นกรด-ด่าง เท่ากับ 0.71) ซึ่งเป็นผลดีต่อต้นยาง ไม่ส่งผลระคายต่อผิวของเกษตรกรผู้ใช้และไม่ทำให้ดินเป็นกรด
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ถือเป็นลิขสิทธ์ของวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำข้อมูลทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชก่อนเท่านั้น
The content and information in the article published in Wichcha journal Nakhon Si Thammarat Rajabhat University, It is the opinion and responsibility of the author of the article. The editorial journals do not need to agree. Or share any responsibility.
เอกสารอ้างอิง
กองการยาง. (2563). สถิติยางประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2564, จาก: https://www.doa.go.th/rc/suratthani/wp.
จันจิรา พ่วงทอง และอธิวีณ์ แดงกนิษฐ์. (2563). สถานการณ์ยางพาราปี 2562 และแนวโน้มปี 2563. วารสารยางพารา ฉบับอิเล็กทรอนิกส์, 41, 6-39.
ชัยวุฒิ วัดจัง เสาวลักษณ์ บุญยอด และประสิทธิ กาญจนา. (2561). การใช้ประโยชน์น้ำทิ้งจากการจับตัวแผ่นยางดิบสำหรับการผลิตยางก้อนถ้วย. Science and Technology RMUTT Journal, 8(2), 31-34.
ณัชชารีย์ ทวีหิรัญรัฐกิจ เปรมกมล ปิยะทัต และสุมาลี จิระจรัส. (2561). ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อสภาพการผลิตยางก้อนถ้วยของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินท่าแซะ จำกัด อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารวิทยาการจัดการ, 5(2), 205-231.
เบญจวรรณ คำศรี และอรทัย ชวาลภาฤทธิ์. (2555). การผลิตน้ำหมักชีวภาพที่ใช้ตะกอนสลัดจ์เป็นวัสดุหมักร่วม. ใน การประชุมวิชาการแห่งชาติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ครั้งที่ 9 (หน้า 461-467). นครปฐม: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ปรีดิ์เปรม ทัศนกุล. (2558). หยุดการใช้กรดซัลฟิวริกในการจับตัวยาง. วารสารยางพารา, 36(3), 14-18.
ปรีดิ์เปรม ทัศนกุล. (2563). สมบัติพื้นฐานของน้ำยางสดและยางแผ่นรมควันที่สอดรับกับความต้องการของผู้ประกอบการ. วารสารยางพารา ฉบับอิเล็กทรอนิกส์, 41, 40-46.
พัชรี หลุ่งหม่าน จีรนันท์ กล่อมนรา แก้วรักษา และจาตุรนต์ ทิพย์วงศ์. (2560). การประยุกต์ใช้สถิติเพื่อการออกแบบสภาวะที่เหมาะสมในการหมักกรดอินทรีย์จากผลตะลิงปลิงโดย Zygosaccharomyces rouxii TISTR 5044 สำหรับทำยางก้อนถ้วย. วารสารวิทยาศาสตร์บูรพา. 22(3), 581-595.
ภัสจนันท์ หิรัญ อรพิน เกิดชูชื่น และณัฏฐา เลาหกุลจิตต์. (2552). ประสิทธิภาพของสารสกัดจากมะนาว มะกรูดและส้มโอในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์. วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร, 40(2 พิเศษ), 91-94.
ไมซาตุลอักมาล ท่าดะ อรวรรณ ทิพย์มณี และอาอีเซาะส์ เบ็ญหาวัน. (2560). การรักษาสภาพน้ำยางด้วยน้ำขี้เถ้าและการจับตัวของน้ำยางด้วยน้ำมะพร้าวหมัก. ใน รายงานการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ด้านวิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์: ราชภัฏวิชาการ. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (หน้า 212-217). นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช.
สถาบันวิจัยยาง. (2536). น้ำยาง. สืบค้นเมื่อ 21 มีนาคม 2561, จาก: http://pnpandbest.com/rubber/pnp_book04.html.
สายสมร ลำลอง และสมนภา คำนัน. (2557). การใช้น้ำหมักชีวภาพเปลือกสับปะรดผสมใบเตยเป็นสารจับตัวยางธรรมชาติ. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 16(2), 55-62.
สำนักงานตลาดกลางยางพาราหนองคาย. (2559). ยางก้อนถ้วย. สืบค้นเมื่อ 25 มิถุนายน 2563, จาก: https://goo.gl/NGFoNP.
สุจินต์ แม้นเหมือน. (2556). อนาคตยางพารากับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. วารสารยางพารา, 34(1), 7-16.
ศรัณญภัส รักศีล เชิดศักดิ์ เกื้อรักษ์ และรสวันต์ อินทรศิริสวัสดิ์. (2563). ความต้องการการทำวนเกษตรในสวนยางพาราเชิงเดี่ยวหลังเปิดกรีดของเกษตรกรพื้นที่ต้นน้ำ คลองป่าพะยอม-คลองท่าแนะ จังหวัดพัทลุง. วารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 39(2), 72-86.
อมรเดช พุทธิพิพัฒน์ขจร และอมรฤทธิ์ พุทธิพิพัฒน์ขจร. (2561). การหาปริมาณเนื้อยางแห้งของยางก้อนถ้วยด้วยวิธีเนียร์อินฟราเรดสเปกโทรสโกปี. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 26(4), 694-704.
Cheok, C.Y., Adzahan, N.M., Rahman, R.A., Zainal Abedin, N.H., Hussain, N., Sulaiman, R. and Chong, G.H. (2018). Current trends of tropical fruit waste utilization. Critical Reviews in Food Science and Nutrition, 58(3), 335-361.
Chutia, M., Deka, P., Pathak, M.G. and Sarma, T.C. (2009). Antifungal activity and chemical composition of Citrus reticulata Blanco essential oil against phytopathogens from North East India. LWT- Food Science and Technology, 42(3), 777-780.
Dinesh Fernando, M.G. and Kaluarachchi, C.I. (2012). Death due to adult respiratory distress syndrome following assault with rubber acid could it have been averted. Sri Lanka Journal of Forensic Medicine. Science and Law, 3(1), 13-15.
Kaya, M., Sousa, A.G., Crépeau, M.J., Sørensen, S.O. and Ralet M.C. (2014). Characterization of citrus pectin samples extracted under different conditions: influence of acid type and pH of extraction. Annals of Botany, 114(6), 1319-1326.
Mahmood, K., Fazilah, A., Yang, T.A., Sulaiman, S. and Kamilah, H. (2018). Valorization of rambutan (Nephelium lappaceum) by-products: Food and non-food perspectives. International Food Research Journal, 25(3), 890-902.
Normah, O. and Hasnah, K.A.K. (2000). Pectin content of selected local fruit by-products. Journal of Tropical Agriculture and Food Science, 28(2), 195-201.
Pereira, P.H.F., Oliveira, T.Í.S., Rosa, M.F., Cavalcante, F.L., Moates, G.K., Wellner, N., Waldron, K.W. and Azeredo, H.M.C. (2016). Pectin extraction from pomegranate peels with citric acid. International Journal of Biological Macromolecules, 88, 373-379.
Shaha, R.K., Nayagi, Y., Punichelvana, A.P. and Afandi, A. (2013). Optimized extraction condition and characterization of pectin from Kaffir Lime (Citrus hystrix). Research Journal of Agriculture and Forestry Sciences, 1(2), 1-11.
Tekasakul, P. and Tekasakul, S. (2006). Environmental problems related to natural rubber production in Thailand. Journal Aerosol Research, 21(2), 122-129.
Yeoh S., Shi, J., T.A.G. and Langrish, T.A.G. (2008). Comparisons between different techniques for water-based extraction of pectin from orange peels. Desalination, 218(1-3), 229-237.