ผลการใช้ระบบการเรียนรู้บนคลาวด์ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง อะตอมและโครงสร้างอะตอม เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ส่งผลให้มนุษย์มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เรียน การพัฒนาระบบการเรียนรู้บนคลาวด์ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง อะตอมและโครงสร้างอะตอมจะสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนและลดช่องว่างทางการศึกษาได้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนจัดการเรียนการสอน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ และแบบประเมินความพึงพอใจ การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนของผู้เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ที่เรียนด้วยระบบการเรียนรู้บนคลาวด์ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของผู้เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ด้วยระบบการเรียนรู้บนคลาวด์ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านกับผู้ที่เรียนในรูปแบบปกติ และ 3) ประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ระบบการเรียนรู้บนคลาวด์ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/7 จำนวน 30 คน ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sampling) จากการศึกษาพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของผู้เรียนสูงกว่าก่อนเรียนเมื่อได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 2) ผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของผู้เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ด้วยระบบการเรียนรู้บนคลาวด์ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านสูงกว่าผู้ที่เรียนในรูปแบบการเรียนการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 และ 3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ระบบการเรียนรู้บนคลาวด์ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านในระดับมากที่สุด (mean = 4.67 SD = 0.59)
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ถือเป็นลิขสิทธ์ของวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำข้อมูลทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชก่อนเท่านั้น
The content and information in the article published in Wichcha journal Nakhon Si Thammarat Rajabhat University, It is the opinion and responsibility of the author of the article. The editorial journals do not need to agree. Or share any responsibility.
เอกสารอ้างอิง
กิ่งกมล ศิริประเสริฐ และกอบสุข คงมนัส. (2564). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับเกม Kahoot วิชาภาษาอังกฤษ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการกำกับตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารวิจัยและนวัตกรรม สถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร, 4(2), 157-180.
เกรียงไกร พละสนธิ พัลลภ พิริยะสุรวงศ์ และพินันทา ฉัตรวัฒนา. (2559). รูปแบบคลาวด์เลิร์นนิงแบบสะตีมด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรม สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี. วารสารวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรม พระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 10(2), 256-264.
เฉลิมพร เตชะพะโลกุล สกลธ์ชัย ชะนูนันท์ และจินตนา กล่ำทศ. (2562). การศึกษาการประยุกต์ห้องเรียนกลับด้านเพื่อพัฒนาสมรรถนะการแก้ปัญหาแบบร่วมมือของผู้เรียนในรายวิชาเคมี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์. วารสารชุมชนวิจัย, 13(3), 173-187.
ชนสิทธิ์ สิทธิ์สูงเนิน. (2560). ห้องเรียนกลับด้าน: ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสาร มจรสังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 6(2 พิเศษ), 171-182.
ณัฎภัทรศญา เศรษฐโชติสมบัติ. (2562). ผลของการออกแบบแผนการสอนและการพัฒนาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศต่อผลลัพธ์การเรียนรู้. วารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 38(2), 93-103.
เบญจพร สุคนธร และสมพงษ์ จิตระดับ. (2563). แนวทางการใช้ห้องเรียนกลับด้านในการเรียนการสอนวิชาเคมี สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ. วารสารวิจัย มข. สาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ (ฉบับบัณฑิตศึกษา), 8(1), 13-24.
เบญจมาศ ฉิมมาลี และอนุชิต อนุพันธ์. (2562). การเรียนคณิตศาสตร์บนเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี. วารสารบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม, 1(2), 5-15.
ศิริพล แสนบุญส่ง. (2560). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านโดยใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคอมพิวเตอร์สำหรับครูของนักศึกษาปริญญาตรี. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 11(พิเศษ), 133-146.
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2562). Cloud computing. สืบค้นเมื่อ 16 มกราคม 2562, จาก: https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/3071-cloud-computing.
Akçayır, G. and Akçayır, M. (2018). The flipped classroom: A review of its advantages and challenges. Computer & Education, 126, 334-345, doi: https://doi.org/10.1016/j.compedu.2018.07.021.
Anderson, L.W. and Krathwohl, D.R. (2001). A taxonomy for learning, teaching, and assessing: A revision of bloom’s taxonomy of educational objectives, pp. 64-66. New York: Addison Wesley Longman.
Arpaci, I. (2019). A hybrid modeling approach for predicting the educational use of mobile cloud computing services in higher education. Computers in Human Behavior, 90, 181-187, doi: https://doi.org/10.1016/j.chb.2018.09.005.
Bergmann, J. and Sams, A. (2012). Flip your classroom: Reach every student in every class every day. United States of America: ISTE and ASCD.
Bokosmaty, R., Bridgeman, A., and Muir, M. (2019). Using a partially flipped learning model to teach first year undergraduate chemistry. Journal of Chemical Education, 96(4), 629-639, doi: https://doi.org/10.1021/acs.jchemed.8b00414.
Hakak, S., Noor, N.F.M., Ayub, M.N., Affal, H., Hussin, N., Ahmed, E. and Imran, M. (2019). Cloud-assisted gamification for education and learning-recent advances and challenges. Computers and Electrical Engineering, 74, 22-34, doi: https://doi.org/10.1016/j.compeleceng.2019.01.002.
Hu, L. (2021). The construction of mobile education in cloud computing. Procedia Computer Science, 183, 14-17, doi: https://doi.org/10.1016/j.procs.2021.02.024.
Rau, M.A., Kennedy, K., Oxtoby, L., Bollom, M. and Moore, J.W. (2017). Unpacking active learning: A combination of flipped classroom and collaboration support is more effective but collaboration support alone is not. Journal of Chemical Education, 94(10), 1406-1414, doi: https://doi.org/10.1021/acs.jchemed.7b00240.
