ผลของอายุการเก็บรักษาของตำรับสารเคลือบเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ต่อลักษณะทางกายภาพ และคุณภาพเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศและคะน้า
DOI:
https://doi.org/10.14456/jare-mju.2025.26คำสำคัญ:
คุณภาพเมล็ดพันธุ์ , การยกระดับเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ , ไบโอพอลิเมอร์ , เกษตรอินทรีย์บทคัดย่อ
การปลูกพืชทั่วไปส่วนใหญ่ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการเคลือบเมล็ดร่วมกับสารเคมีป้องกันโรคและแมลงเพื่อลดการเข้าทำลายของปัจจัยการเพาะปลูกที่ไม่เหมาะสม แต่ในระบบการปลูกพืชในระบบเกษตรอินทรีย์ไม่สามารถใช้เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการเตรียมร่วมกับสารเคมีได้ จึงเป็นการลดประสิทธิภาพการใช้เมล็ดพันธุ์อินทรีย์ลง ดังนั้นการสร้างสูตรสารเคลือบเมล็ดพันธุ์อินทรีย์จึงเป็นการเพิ่มโอกาสการใช้เมล็ดพันธุ์อินทรีย์ให้สามารถเพาะปลูกได้ทัดเทียมกับการปลูกพืชในระบบทั่วไปได้ การทดลองนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสูตรตำรับสารเคลือบเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ วางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design (CRD) จำนวน 4 ซ้ำ ประกอบด้วยการสร้างสูตรสารเคลือบจำนวน 3 ตำรับ ประกอบด้วย gum arabic 0.3% w/v, sodium alginate 0.2% w/v และ xanthan gum 0.1% w/v แล้วนำไปเก็บรักษาในสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน 2 สภาพ คือ สภาพควบคุมอุณหภูมิ (4 องศาเซลเซียส) และสภาพไม่ควบคุมอุณหภูมิ (27±2 องศาเซลเซียส) เก็บรักษาสูตรสารเคลือบเป็นระยะเวลา 12 เดือน จากนั้นสุ่มสารเคลือบในแต่ละตำรับทุก ๆ 3 เดือน มาทดสอบลักษณะทางกายภาพและทดลองเคลือบร่วมกับเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศและเมล็ดพันธุ์คะน้า จากการศึกษาพบว่า pH ของสารเคลือบทั้ง 3 ตำรับ มีค่าเป็นด่างแก่ในช่วง 3 เดือนแรก จากนั้นความเป็นด่างแก่จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเก็บรักษานานยาวนานขึ้น ส่วนสารเคลือบเมล็ดพันธุ์ทั้ง 3 ตำรับ พบว่าหลังการเก็บรักษาทั้ง 2 สภาพสารเคลือบเมล็ดพันธุ์ยังคงมีความหนืดที่เหมาะสมสำหรับการเคลือบเมล็ดพันธุ์ เมื่อตรวจสอบแผ่นฟิล์มของ gum arabic 0.3% w/v พบว่าสามารถละลายน้ำได้ 100% ตลอดการเก็บรักษาทั้ง 2 สภาพ ส่วนแผ่นฟิล์มของ sodium alginate 0.2% w/v และ xanthan gum 0.1% w/v สามารถละลายน้ำได้ดีในช่วง 3 เดือนแรก จากนั้นจะลดลงตามระยะเวลาการเก็บรักษา เมื่อตรวจสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์พบว่าตำรับสารเคลือบ sodium alginate 0.2% w/v มีเปอร์เซ็นต์การงอกรากแรกและเปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศและคะน้าดีกว่าตำรับอื่น ๆ ดังนั้นจึงแนะนำสารเคลือบเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ที่ได้จากการเตรียมด้วย sodium alginate 0.2% w/v ที่เก็บรักษาในสภาพควบคุมเป็นระยะเวลา 12 เดือน เป็นสารเคลือบเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพดีสำหรับใช้เคลือบเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศและเมล็ดพันธุ์คะน้า
เอกสารอ้างอิง
Agricultural Research Development Agency. 2020. Standards for Organic Crop Production in Thailand. Bangkok: Agricultural Cooperative Community of Thailand Ltd. Thailand. 40 p. [in Thai]
Bewley, J.D. K.J. Bradford, H.W.M. Hilhorst and H. Nonogaki. 2013. Seeds: Physiology of Development, Germination and Dormancy. 3rd edition. New York: Springer. 392 p.
Cherrate, M, N. Radouane, S. Ezrari, G. Echchgadda, A. Maissour, K. Makroum, G. Plavan, O.H. Abd-Elkader and M. Bourioug. 2023. Effects of temperature pH and salinity on seed germination of Acinos alpinus subsp. Meridionalis and FTIR analysis of molecular composition changes. Sustainability 15(6): 4793.
Deaker, R., R.J. Roughley and I.R. Kennedy. 2004. Legume seed inoculation technology–a review. Soil Biology and Biochemistry 36(8): 1275–1288.
Frent, O.D., L.G. Vicas, N. Duteanu, C.M. Morgovan, T. Jurca, A. Pallag, M.E. Muresan, S.M. Filip, R.L. Lucaciu, and E. Marian. 2022. Sodium alginate–natural microencapsulation material of polymeric microparticles. International Journal of Molecular Sciences 23(20): 12108.
ISTA. 2019. International Rules for Seed Testing: Weight Determination. Bassersdorf: Int. Seed Testing Assoc. 298 p.
Kangsopa, J. 2019. Seed coating. Maejo Journal of Agricultural Production 1(2): 63–76. [in Thai]
Korkasetwit, S. 2008. Effect of Coating Substance on Quality and Longevity of Sweet Corn Seed. Master Thesis. in Agronomy. Khon kaen University. 81 p. [in Thai]
Patel, S. and Goyal, A. 2015. Applications of natural polymer gum arabic: a review. International Journal of Food Properties 18(5): 986–998.
Petri, D.F. 2015. Xanthan gum: a versatile biopolymer for biomedical and technological applications. Journal of Applied Polymer Science 132(23): 1-13 https://doi.org/10.1002/app.42035
Reed, R.C., K.J. Bradford and I. Khanday. 2022. Seed germination and vigor: ensuring crop sustainability in a changing climate. Heredity 128(6): 450–459.
Siri, B. 2015. Seed Conditioning and Seed Enhancements. Khon Kaen: Klungnanawitthaya Priting. 239 p. [in Thai]
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร

