Journal Information
คำแนะนำการเตรียมต้นฉบับ
ดาวน์โหลดไฟล์การเตรียมต้นฉบับ
2. ตัวอย่างแบบฟอร์ม บทความวิชาการ
3. ตัวอย่างแบบฟอร์ม บทความวิจัย
วารสารวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร เป็นวารสารราย 4 เดือน กำหนดออกปีละ 3 ฉบับ โดยเริ่มฉบับที่ 1 ในเดือนมกราคม ฉบับที่ 2 ในเดือนพฤษภาคม และฉบับที่ 3 ในเดือนกันยายน มีจุดประสงค์หลักเพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และองค์กร ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเกษตรทั่วประเทศ โดยมีการเผยแพร่ออนไลน์ (Journal Online) ในรูปวารสารอิเล็กทรอนิกส์ ISSN 2985-0118 (Online) สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเกษตร เรื่องที่จะตีพิมพ์ในวารสาร นอกจากบทความวิจัยแล้ว บทความทางวิชาการอื่น ๆ ที่เป็นการแสดงความคิดใหม่ หรือสมมุติฐานใหม่ที่มีหลักฐานอ้างอิง หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางหรือลึกซึ้งในสาขาวิชาการใดสาขาวิชาการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร หรือเป็นการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ก็มีสิทธิ์ได้รับการตรวจสอบทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องกับบทความนั้น ๆ อย่างน้อย 3 ท่าน พิจารณาให้ลงตีพิมพ์ได้เช่นเดียวกัน
การเตรียมต้นฉบับ
- ต้นฉบับ เผยแพ่รบทความเป็นภาษาไทย โดยใช้ตัวอักษร TH Sarabun NEW ขนาดตัวอักษร 16 ตัวหนา ในส่วนของหัวข้อเรื่อง และขนาดตัวอักษร 15 ตัวปรกติ ในส่วนของเนื้อหา พิมพ์หน้าเดียว เว้นขอบทั้ง 4 ด้าน 1 นิ้ว (2.5 ซม.) พร้อมระบุเลขหน้า ความยาวของเนื้อเรื่อง รวมรูปภาพ ตาราง และเอกสารอ้างอิงต้องไม่เกิน 10 หน้า
- ชื่อเรื่อง ต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ควรกระชับและตรงกับเนื้อเรื่อง ขนาดตัวอักษร 18 ตัวหนา
- ชื่อผู้แต่ง และสถานที่ติดต่อ ต้องมีชื่อเต็ม-นามสกุลเต็มทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 15 ตัวหนา และระบุหน่วยงานหรือสถาบันที่สังกัด ของผู้แต่งหลักและผู้แต่งร่วมทุกคน และ E-mail address ของผู้แต่งหลักไว้ด้วย ขนาดตัวอักษร 12 ตัวปรกติ
- บทคัดย่อ (Abstract) บทความวิจัย/บทความทางวิชาการอื่น ๆ จะต้องมีบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความยาวไม่เกิน 15 บรรทัด โดยเขียนให้กะทัดรัด ตรงประเด็น และให้สาระสำคัญ
- คำสำคัญ (Keywords) ต้องมีคำสำคัญทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษไว้ท้ายบทคัดย่อของแต่ละภาษา อย่างละไม่เกิน 5 คำ
- เนื้อเรื่อง
- คำนำ อธิบายความสำคัญของปัญหาและวัตถุประสงค์ของการวิจัย อาจรวมการตรวจเอกสารเข้าไว้ด้วย ในการอ้างอิงเอกสารให้เขียนชื่อผู้แต่ง และปีที่ตีพิมพ์ อยู่ในวงเล็บเดียวกัน หรือเขียนชื่อผู้แต่ง แล้วเขียนปีที่ตีพิมพ์ ไว้ในวงเล็บแล้วแต่กรณี เฉพาะภาษาอังกฤษ ดังนี้ “..........โรคใบหงิกมีพบทั่วไปในประเทศบังคลาเทศ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย (Boccardo and Milne, 1984; Ling et al., 1978) ในประเทศไทยนั้น นอกจากก่อความเสียหายกับ ข้าวปลูกทั้งชนิด Japonica และ Indica (Oryza sativa) พันธุ์ต่างๆ แล้ว Thawat (2001) ยังพบว่า ทำความเสียหายได้กับข้าวไร่และข้าวป่าต่างๆ..........”
- อุปกรณ์และวิธีการ/วิธีดำเนินการวิจัย อธิบายเครื่องมือ พร้อมระบุวิธีการวิจัย วิธีการเก็บข้อมูล ระยะเวลาและปีที่ทำการวิจัย รวมทั้งวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล ให้บรรยายโดยสรุปและไม่จำเป็นต้องระบุวิธีการที่เป็นที่รู้กันทั่วไป
- ผลการวิจัย ไม่จำเป็นต้องแสดงวิธีการวิเคราะห์ทางสถิติ แต่ให้เสนอในรูปของตาราง และรูปภาพโดยสรุปหลังจากวิเคราะห์ทางสถิติแล้ว ทั้งนี้ คำอธิบายและรายละเอียดต่าง ๆ ของตารางและรูปภาพ ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยมีความชัดเจน กะทัดรัด และมีหมายเลขกำกับด้านบทของตารางและด้านล่างของรูปภาพ และเมื่ออ้างถึงในเนื้อหาให้ใช้เป็นคำว่า Table และ Figure
- การวิจารณ์ผล การสรุปผล และข้อเสนอแนะ ควรวิจารณ์ผลการวิจัยพร้อมทั้งสรุปประเด็น และสาระสำคัญของงานวิจัย หรือให้ข้อเสนอแนะบนพื้นฐานของผลการวิจัย
หมายเหตุ: หน่วยวัดตามระบบต่างๆ ให้ใช้ตัวย่อตามมาตรฐานในการเขียนที่กำหนดไว้ เช่น เซนติเมตร = ซม. ตารางเมตร = ตร.ม. มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม = มก./กก. แต่ถ้าเป็นหน่วยวัดที่มีพยางค์เดียวให้ใช้คำเต็มตามปรกติ เช่น เมตร กรัม ลิตร
- กิตติกรรมประกาศ เพื่อแสดงความขอบคุณแก่ผู้ให้ทุนวิจัย หรือผู้ที่ได้ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย
8. เอกสารอ้างอิง รายชื่อเอกสารที่ใช้เป็นหลักในการค้นคว้าวิจัยและมีการอ้างถึงในเนื้อหา ต้องแสดงเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น กรณีที่อ้างอิงจากเอกสารภาษาไทยหรือภาษาอื่นๆ ให้แปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีวงเล็บกำกับท้ายเอกสาร [in Thai] หรือภาษาอื่นๆ ตามคำแนะนำวิธีการเขียน ดังนี้
การเขียนเอกสารอ้างอิง
การเขียนอ้างอิงภายในเนื้อหา
ในการอ้างอิงเอกสารให้ใช้นามสกุลผู้แต่ง และปีที่ตีพิมพ์ อยู่ในวงเล็บเดียวกัน หรือเขียนนามสกุลผู้แต่ง แล้วเขียนปีที่ตีพิมพ์ ไว้ในวงเล็บแล้วแต่กรณี โดยเป็นภาษาอังกฤษ ดังนี้
“..........โรคใบหงิกมีพบทั่วไปในประเทศบังคลาเทศ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย (Boccardo and Milne, 1984; Ling et al., 1978) ในประเทศไทยนั้น นอกจากก่อความเสียหายกับ ข้าวปลูกทั้งชนิด Japonica และ Indica (Oryza sativa) พันธุ์ต่างๆ แล้ว Thawat (2001) ยังพบว่า ทำความเสียหายได้กับข้าวไร่และข้าวป่าต่างๆ..........”
1. บทความจากวารสารวิชาการมาตรฐาน 1.1 ผู้เขียนคนเดียวหรือหลายคน ชื่อผู้เขียนบทความคนที่ 1,/ผู้เขียนบทความคนที่ 2/และ/ผู้เขียนบทความคนสุดท้าย.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อบทความ.//ชื่อวารสาร/เลขปีที่(เลขฉบับที่):/เลขหน้า. Koiprasert, H. and P. Niranatlumpong. 2004. Investigation of method for stainless steel welding wire as a replacement for arc wire comsumables. Songklanakarin Journal of Science and Technology. 27(1): 91-100. [in Thai] Nadeem, M.Y. and M. Ibrahim. 2002. Phosphorus management in wheat-rice cropping system. Pakistan Journal of Soil Science. 21(4): 21-23. Chowdhury, M.A.H., R. Begum, M.R. Kabit and H.M. Zakir. 2002. Plant and animal residue decomposition and transformation of S and P in soil. Pakistan Journal of Biological Sciences 5(7): 736-739. |
2. หนังสือ 2.1 ผู้เขียนคนเดียวหรือหลายคน ชื่อผู้แต่งคนที่ 1,/ผู้แต่งคนที่ 2/และผู้แต่งคนสุดท้าย.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อหนังสือ.//ครั้งที่พิมพ์ (ถ้ามี).//สถานที่พิมพ์:/สำนักพิมพ์.// จำนวนหน้า. Peyachoknagu, S. 2000. Pan Thu Vis Sa Wa Kum. Bangkok: Kasetsart University Press. 256 p. [in Thai] Aksornkoae, S. 1999. Ecology and Management of Mangroves. Bangkok: Kasetsart University Press. 198 p. Rajeshwar, K. and J.G. Ibanez. 1997. Environmental Electrochemistry. San Diego: Academic Press. 327 p. |
2.2 บทหนึ่งในหนังสือ ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อบทความ.//น./เลขหน้าที่ปรากฏเรื่อง.//ใน/ชื่อผู้รับผิดชอบ.//ชื่อหนังสือ.// Hill, S.E. 1996. Emultions. pp. 153-185. In Hall, G.M. (ed.). Methods of Testing Protein Functionality. London: Chapman & Hall. Jacober, L.F. and A.G. Rand. 1982. Biochemical of Seafood. pp. 347-365. In Martin, R.E., G.J. Flick, C.E. Hebard and D.R. Ward (eds.). Chemistry and Biochemistry of Marine Food Products. Westport: AVI Inc. |
2.3 หนังสือที่มีผู้รับผิดชอบในหน้าที่เป็นผู้รวบรวม ผู้เรียบเรียง หรือบรรณาธิการ ชื่อผู้รับผิดชอบ.//(หน้าที่รับผิดชอบ).// ปีที่พิมพ์.//ชื่อเรื่อง.//ครั้งที่พิมพ์ (ถ้ามี).//สถานที่พิมพ์:/สำนักพิมพ์.// Tosirichok, K. (Editor). 1994. Karn Rak Sa Doi Sa Moon Pri. 1st. Bangkok: Mayik Publisher. 172 p. [in Thai] Byrappa, K. and M. Yoshimura. (eds.). 2001. Handbook of Hydrothermal Technology. New Jersey: Noyes Publication. 854 p. |
3. เอกสารอื่นๆ 3.1 วิทยานิพนธ์ ชื่อผู้แต่ง.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อวิทยานิพนธ์.//ระดับของวิทยานิพนธ์.//ชื่อสถาบันการศึกษา.//จำนวนหน้า. Soitongcome, P. 1987. Tannin Extraction from Rhizophora’s Bark for Retanning. Master Thesis. Kasetsart University. 113 p. [in Thai] Saiklao, W. 2002. Adaptive Bandwidth Allocation Control for Virtual Paths in Broadband Networks. Doctoral Dissertation. Georgia Institute of Technology. 86 p. |
3.2 รายงานการประชุมวิชาการ รายงานการสัมมนา ปาฐกถา รายงานประจำปี ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อบทความ.//น./เลขหน้าที่ปรากฏเรื่อง.//ใน/ชื่อการประชุม.//รายละเอียดอื่น ๆ (ถ้ามี).//ครั้งที่พิมพ์ (ถ้ามี).//สถานที่พิมพ์: สำนักพิมพ์. Summadee, P. and B. Leenanon. 2013. Production of Probiotic Kefir Product. p. 109-116 In Proceedings of the 12th MJU Annual Conference (Poster). Chiang Mai: Maejo University. [in Thai] Coates, J. 2013. Clinical Trial for Canine Degenerative Myelopathy. pp. 29-31. In Proceedings of ACVIM Specialty Symposium (Pre-forum) 12-15 June 2013. Seattle: American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM). |
3.3 รายงานผลการวิจัย ชื่อผู้เขียนงานวิจัย.//ปีที่พิมพ์.//ชื่องานวิจัย.//จำนวนหน้า.//ใน/รายงานผลการวิจัย.//สถานที่พิมพ์:/ชื่อหน่วยงาน. Pooprompan, P., K. Duangsong and R. Sribaopern. 2001. DNA fingerprinting of Thai native orchid Vanda coerulea. 62 p. In Research Report. Chiang Mai: Maejo University. [in Thai] Theraumpon, N. 2003. Automatic Classification of White Blood Cells in Bone Marrow Images. 74 p. In Research Report. Chiang Mai: Chiang Mai University. |
3.4 บทความจากวารสาร ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่ตีพิมพ์.//ชื่อบทความ.//ชื่อวารสาร.//ปีที่ของนิตยสาร(เล่มที่): เลขที่หน้าที่อ้างอิง. Srinuansom, K. 2018. Half-artficial breeding of Monopterus albus. Maejo Vision 18(4): 33-37. [in Thai] |
3.5 บทความจากหนังสือพิมพ์ ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่ตีพิมพ์.//ชื่อบทความ.//ชื่อหนังสือพิมพ์.//(เดือน/วันที่/ปี):/เลขที่หน้าที่อ้างอิง. Manapaisarn, S. 2006. Kra Sate Tra Korn Thai Nai A Na Koth. Thai Rath. (January 10, 2006): 7. [in Thai] |
3.6 บทความออนไลน์ - มีเลข DOI (Digital Object Identifier) ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่ตีพิมพ์.//ชื่อบทความ.//ชื่อวารสาร// ปีที่:/หน้าเริ่มต้น-สิ้นสุด. Doi/:/xxxxxxxxxxxxxx Rodcharoen, E., N.L. Bruce and P. Pholpunthin. 2017. Cirolana phuketensis, a new species of marine isopod (Crustacea, Isopoda, Cirolanidae) from the Andaman sea coast of Thailand. ZooKeys 695(2): 1-17. DOI: 10.3897/zookeys.695.13771. - ไม่มีเลข DOI (Digital Object Identifier) ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่ตีพิมพ์.//ชื่อบทความ.//ชื่อวารสาร.// ปีที่/หน้าเริ่มต้น-สิ้นสุด.//[Online].//Available Hasler, K., S. Bröring, S.W.F. Omta and H.W. Olfs. 2015. Life cycle assessment (LCA) of different fertilizer product types. European Journal of Agronomy 69: 41-51. [Online]. Available https://doi.org/10.1016/j.eja.2015.06.001 (March 20, 2020) |
4. แหล่งข้อมูลอิเลคทรอนิกส์ ผู้แต่งหรือผู้รับผิดชอบ.//ปีที่บันทึกข้อมูล.//ชื่อเรื่อง.//[ระบบออนไลน์].//แหล่งที่มา/ระบุแหล่งการติดต่อเครือข่ายหรือการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล ชื่อแฟ้มข้อมูล/( เดือน/วันที่/ปี ที่ค้นข้อมูล). Maythiyanon, T., N. Piriyarungroj and S. Soponarit. 2004. Novel vortex-fluidized bed combustor with two combustion chambers for rice-husk fuel. SJST 26(6): 875-893. [Online]. Available http://www2.psu.ac.th/PresidentOffice/EduService/Journal/Firstpage.htm (September 22, 2005). [in Thai] National Economic and Social Development Board (NESDB). 2001. Input-output tables of Thailand. [Online]. Available http://www.nesdb.go.th (August 8, 2001). Singh, M. and R.P. Singh. 2001. Siderophore producing bacteria-as potential biocontrol agents of mushroom disease. [Online]. Available http://www.uio.no/conferencesJune2000.htm#Samuels (July 3, 2001). |
การส่งต้นฉบับ การตรวจสอบเบื้องต้น และการแก้ไข
1) ส่งไฟล์ต้นฉบับ ให้มีรายละเอียดครบตรงตามคำแนะนำในการเตรียมต้นฉบับ และส่งพร้อมใบลงทะเบียนวารสาร โดยส่งผ่านระบบ ThaiJo ของวารสารวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร หรือลิ้งค์ https://www.tci-thaijo.org/index.php/MJUJN/ index เท่านั้น
2) กองบรรณาธิการจะพิจารณาบทความในเบื้องต้น ในกรณีที่ต้องแก้ไขจะแจ้งให้เจ้าของบทความทำการแก้ไขก่อนนำส่งต่อให้ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาในลำดับต่อไป สำหรับบทความที่ไม่ได้รับการพิจารณาให้ดำเนินการต่อจะส่งต้นฉบับคืนให้เจ้าของบทความ
3) บทความที่ได้รับการพิจารณาจากกองบรรณาธิการให้ดำเนินการต่อ จะได้รับการตรวจสอบทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิ อย่างน้อยบทความละ 3 ท่าน ที่เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องกับบทความนั้น ๆ และบทความที่ได้รับการพิจารณาให้ตีพิมพ์ กองบรรณาธิการจะส่งข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมทั้งต้นฉบับให้เจ้าของบทความปรับปรุงแก้ไข
4) บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะมีการเผยแพร่ออนไลน์ (Journal Online) ในรูปแบบวารสารอิเล็กทรอนิกส์ ที่ https://www.tci-thaijo.org/index.php/MJUJN/index