ประสิทธิภาพของแบคทีเรียที่คัดเลือกในการบำบัดปรอทในดิน

Main Article Content

สุมาลี ใบพลูทอง
ศศิธร หาสิน
อนัญญา โพธิ์ประดิษฐ์
อภิชญา สวัสดี

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาประสิทธิภาพของแบคทีเรียคัดสายพันธุ์เพื่อลดการปนเปื้อนของสารปรอทในดิน ในการดำเนินการวิจัยมีการวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและทางเคมีของดิน และวิเคราะห์ประสิทธิภาพการลดการปนเปื้อนของสารปรอทในดิน โดยเติมแบคทีเรียคัดสายพันธุ์ในดินที่มีความเข้มข้นของสารปรอทที่แตกต่างกัน ติดตามการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะเวลา 15 วัน จากนั้นวิเคราะห์ปริมาณของสารปรอทในดินด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี (gas chromatography: GC) และคำนวณประสิทธิภาพการลดการปนเปื้อนของสารปรอท จากผลการวิจัยพบว่าดินมีลักษณะ
เป็นดินร่วน และเมื่อพิจารณาค่าอินทรียวัตถุในดินตัวอย่างพบว่ามีปริมาณ 18 กรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งอยู่ในระดับปานกลางถึงต่ำ ในส่วนค่าความเป็นกรดด่างมีค่า 6.56 ซึ่งมีค่าเป็นกรดอ่อน และจากการวิเคราะห์การลดการปนเปื้อนของสารปรอท พบว่าการใช้แบคทีเรียคัดสายพันธุ์ปริมาณ 5 กรัม ที่ความเข้มข้นของสารปรอท 120 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีประสิทธิภาพในการลดการกำจัดสารปรอทสูงสุด คือ ร้อยละ 43.07 และรองลงมาคือ การใช้แบคทีเรียคัดสายพันธุ์ปริมาณ 5 กรัม ที่ความเข้มข้นของสารปรอท 240 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีประสิทธิภาพในการบำบัดสารปรอทร้อยละ 42.13 ดังนั้นจากงานวิจัยนี้จึงสามารถนำไปสู่การจัดการพื้นที่ที่มีการตกค้างของปรอท รวมถึงการลดการปนเปื้อนของโลหะหนักสู่ห่วงโซ่อาหารได้อีกด้วย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ใบพลูทอง ส., หาสิน ศ., โพธิ์ประดิษฐ์ อ., & สวัสดี อ. (2023). ประสิทธิภาพของแบคทีเรียที่คัดเลือกในการบำบัดปรอทในดิน. วารสารวิชชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 42(2), 70–79. https://doi.org/10.65217/wichchajnstru.2023.v42i2.258015
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ชมภู่ เหนือศรี นุกูล กุดแถลง พิทักษ์ นาสมใจ ปิยะ โมคมุล และเชิดชัย สมบัติโยธา. (2561). การปนเปื้อนของโลหะหนักและการจัดการขยะอันตรายโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์. รายงานวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

นันทวุฒิ จำปางาม. (2561). การฟื้นฟูมลพิษทางดินที่ปนเปื้อนกากของเสียอันตรายจากภาคอุตสาหกรรม. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 12(2), 97-111.

พัชรี ธีรจินดาขจร. (2554). คู่มือการวิเคราะห์ดินทางเคมี. (พิมพ์ครั้งที่ 3). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัย ขอนแก่น.

Chien, M., Nakahata, R., Ono, T., Miyauchi, K. and Endo, G. (2012). Mercury removal and recovery by immobilized Bacillus megaterium MB1. Frontiers of Chemical Science and Engineering, 6(2), 192-197, doi: https://doi.org/10.1007/s11705-012-1284-3.

Hachiya, N. (2006). The history and the present of Minamata disease - entering the second half a century. Japan Medical Association Journal, 49(3), 112-118.

Holmes, P., James, K.A.F. and Levy, L.S. (2009). Is low-level environmental mercury exposure of concern to human health?. Science of the Total Environment, 408(2), 171-182, doi: https://doi.org/10.1016/j.scitotenv.2009.09.043.

Lee, C.S., and Fisher, N.S. (2018). Microbial generation of elemental mercury from dissolved methylmercury in seawater. Limnology and Oceanography, 64(2), 679-693, doi: https://doi.org/10.1002/lno.11068.

Rafique, A., Amin, A. and Latif, Z. (2015). Screening and characterization of mercury-resistant nitrogen fixing bacteria and their use as biofertilizers and for mercury bioremediation. Pakistan Journal of Zoology, 47(5), 1271-1277.

Rua-Ibarz, A., Bolea-Fernandez, E., Maage, A., Frantzen, S., Valdersnes, S., and Vanhaecke, F. (2016). Assessment of Hg pollution released from a WWII submarine wreck (U-864) by Hg isotopic analysis of sediments and cancer pagurus tissues. Environmental Science and Technology, 50(19), 10361-10369, doi: https://doi.org/10.1021/bacs.est.6b02128.

USDA Natural Resources Conservation Service. (2004). Soil survey laboratory methods manual. no. 42 version 4.0. Washington, D.C.: Soil Survey Investigation Report.

Zhao, M.M., Kou, J.B., Chen, Y.P., Xue, L.G., and Fan, T.T. (2021). Bioremediation of wastewater containing mercury using three newly isolation bacterial strains. Journal of Cleaner Production, 299, doi: https://doi.org/10.1016/J.JCLEPRO.2021.126869.